ถ้าถามว่าทำไมคนไทยถึงชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน
ถ้าถามว่าทำไมคนไทยถึงชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน ก็คงจะตอบได้ไม่ยากเพราะประเทศนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่อาหารที่อร่อย วัฒนธรรมก็ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล สถานที่ท่องเที่ยวก็มีแต่ที่สวยๆ งามๆ อาคารบ้านเรือนก็ดูน่าอยู่ สวยงาม แถมยังดูมินิมอล คือไม่มีอะไรที่ “เยอะ” เกินไป คนญี่ปุ่นตามชนบทเองก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว เพราะว่าญี่ปุ่นมีดีมากมายขนาดนี้นี่เอง จึงไม่น่าแปลกใจนักที่หลายคนจะชอบความเป็นญี่ปุ่นกันมาก วันนี้ เรามีไอเดียแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นฝากกัน เผื่อใครอยากจะลองเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นสไตล์กัน
วัสดุอุปกรณ์และไอเดียการตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น
1. ใช้ฉากกั้นแบบญี่ปุ่นแทนประตู
ฉากกั้นแบบญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า โชจิ (Shoji) เป็นองค์ประกอบที่สามารถนำมาใช้เป็นไอเดียแต่งบ้านได้ ฉากกั้นแบบเดิมนั้นจะเป็นกระดาษไขที่อยู่ภายในเฟรมบานเลื่อนใหม่เป็นช่องตาราง แต่ในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ประตูฉากกั้นเปลี่ยนจากกระดาษเป็นกระจกใสหรือกระจกขุ่นในเฟรมไม้หรือเฟรมวัสดุอื่นๆ
จุดประสงค์ในการใช้ฉากกั้นในบ้านญี่ปุ่นมาจากการที่บ้านญี่ปุ่นมักมีขนาดเล็ก จึงนิยมใช้ฉากกั้นมากั้นห้องให้เป็นสัดเป็นส่วน ในขณะเดียวกันหากต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นหรือต้องการเปิดมุมมองให้บ้านดูกว้างขึ้น ก็จะเลือกเปิดฉากกั้นแทนเพื่อเชื่อมพื้นที่สองส่วนเข้าหากัน นับว่ามีประโยชน์ที่สามารถนำมาปรับใช้กับบ้านทั่วไปได้ ลองเปลี่ยนผนังก่ออิฐทึบๆ กับประตูบานสวิง เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเฟรมไม้ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หรือจะเลือกใช้กับผนังภายนอกเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติที่จะเข้าในบ้านเพิ่มมากขึ้นก็ดีนะครับ
จุดเด่นที่สามารถบ่งบอกถึงสไตล์การตกแต่งในลักษณะญี่ปุ่นได้ดีที่สุดอีกหนึ่งเทคนิค คือการเลือกใช้ ‘ประตูบานเลื่อนหรือฉากกั้น’ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ‘โชอิ’ เดิมทีโชอิจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นประตูหรือฉากกั้น ที่ทำจากวัสดุประเภทไม้นำมาวางเรียงกันและเว้นช่องไว้ ซึ่งช่องว่างนั้นในสมัยก่อนจะเลือกใช้วัสดุประเภทกระดาษมันเรียกว่า ‘วะชิ’ ที่มีความหนาและปิดทึบ
แต่เมื่อผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบันโชอิได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ใช้งานง่าย และทันสมัยมากยิ่งขึ้น สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทหลักด้วยกัน
- โชอิ-กระจกใส : ใช้เมื่อวิวภายนอกเป็นวิวที่สวย อาจเป็นสวนหรือสระน้ำ บ่อน้ำ หรือวิวของตึกสูง
- โชอิ-กระจกฝ้า : เหมาะสำหรับแบ่งพื้นที่ต้องการใช้งานให้เป็นสัดส่วน และไม่ทำให้รู้สึกที่อึดอัดอีกด้วย
- โชอิ-กระจกเงา : วัสดุที่สามารถลวงตาให้ห้องแลดูกว้างขึ้นได้ดี และปิดบังส่วนพื้นที่การใช้งานอีกฝั่งให้มีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
2. เลือกใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และไม้ไผ่
เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติมาก จึงมักจะนำไม้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบบ้านและตกแต่งเสมอ ไม่ว่าจะด้านโครงสร้างที่มักจะใช้ไม่ทำพื้น ผนัง ประตู หน้าต่างหรือด้านการตกแต่งที่มักจะใช้ไม่ทำฉากกั้น เฟอร์นิเจอร์ และของกระจุกกระจิก โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ในบ้านบ่อย ๆ ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้เมเปิ้ล ไม่ฮิโน ไม้เฮมล็อก และไม่สนแดง ฉะนั้นถ้าหากใครอยากสร้างบรรยากาศบ้านแบบญี่ปุ่นละก็ ห้ามพลาดงานไม้และงานธรรมชาติอย่างเด็ดขาด วิธีที่อยากให้บ้านมีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นคือ การนำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ตกแต่งภายในบ้าน วัสดุอย่างไม้จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและใจเย็นมากขึ้น การเลือกไม้ลองเลือกใช้เป็นไม้สีอ่อน จัดวางอย่างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน อาจจะลองเปลี่ยนวัสดุไม้บางอย่างเข้าไปแทน เช่น พื้นลายไม้ ชั้นวางของไม้ ฉากกั้น หรือตกแต่งด้วยไม้ไผ่ ก็จะให้ความรู้สึกที่เป็นญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน หรือถ้าเป็นไม้ตะวันตก ลองใช้พวก Maple, Cypress, Hemlock และ Red Pine ที่ให้สีสันใกล้เคียงกับไม้ญี่ปุ่นก็ได้ครับ ไอเดียแต่งบ้านญี่ปุ่นข้อนี้ก็เข้าท่าไม่ใช่น้อยเลย
3. คุมโทนสีของห้องให้ดูญี่ปุ่น
บ้านสไตล์ญี่ปุ่นนิยมตกแต่งบ้านด้วยสีจากธรรมชาติ (Natural Colors) โดยใช้สีน้ำตาลจากสีของไม้ สีเขียวจากพืชพันธ์ต่างๆ และ สีขาวกับสีเทา ซึ่งเป็นสีกลางๆ ที่ใช้ได้ทั่วไป ห้องที่ตกแต่งด้วยสีเหล่านี้จะดูเงียบสงบและเรียบง่ายแบบมินิมอล (Minimal) ตกแต่งภายในห้องด้วยต้นไม้อย่างบอนไซหรือไม้ไผ่ก็จะช่วยเพิ่มสีเขียวและดูเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น ถ้าอยากให้บ้านออกเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นหรือแนวมินิมอล เลือกใช้วัสดุไม้และเครื่องเรือนไม้สีอ่อน (Light Wood) และผนังสีครีมหรือสีขาว แต่หากต้องการไอเดียแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ให้ลองเลือกใช้ไม้สีเข้มและสีเบจมาตกแต่ง
4. เปลี่ยนหน้าตาห้องนั่งเล่นเสียใหม่
ไอเดียแต่งบ้านสำหรับห้องนั่งเล่นหรือรับแขกก็มีเช่นกันครับ ลองเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์ญี่ปุ่น ที่มีต้นแบบมาจากโต๊ะเตี้ยๆของญี่ปุ่นที่เรียกว่า โต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) ที่ด้านล่างจะมีฮีตเตอร์ไว้แล้วผู้ใช้จะสอดขาเข้าไปข้างใต้โต๊ะ คนญี่ปุ่นจะพักผ่อนด้วยวิธีนี้รวมถึงการทำกิจกรรมอื่นๆ ก็จะใช้โต๊ะตัวนี้เช่นเดียวกัน สำหรับโต๊ะในการชงชาจะใช้โต๊ะเตี้ยๆ กับเบาะรองนั่งที่ปูบนเสื่อญี่ปุ่นที่เรียกว่าเสื่อทาทามิ (Tatami) โดยคงรูปแบบโต๊ะเตี้ยๆ กับเบาะรองนั่งบนพื้นเรียบที่ยกพื้นสูงจากระดับพื้นปกติ จากรูปแบบการใช้ชีวิตของญี่ปุ่น ก็สามารถปรับเปลี่ยนและสร้างมุมนั่งเล่นสไตล์ญี่ปุ่นที่น่าสนใจขึ้นมาได้
5. ให้น้ำช่วยผ่อนคลายคนในบ้าน
น้ำ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการตกแต่งภายในสไตล์ญี่ปุ่น เสียงของน้ำจะช่วยผ่อนคลายและช่วยลดความเครียด อาจจะลองเติมน้ำพุหรือน้ำตกจำลองในบ้าน หรือ ลองเปลี่ยนห้องน้ำแบบเดิมให้มีอ่างน้ำสไตล์ญี่ปุ่น (Soaking-Style Tub) ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบสปาเพื่อสุขภาพในบ้านของคุณได้
6. เลือกของตกแต่งให้เข้ากับธีม
ไอเดียแต่งบ้านยังรวมไปถึงการเลือกของแต่งบ้านให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วยครับ ญี่ปุ่นนั้น มีของดีให้เลือกนำมาตกแต่งบ้านได้มากมาย สำคัญที่การเลือกของนั้นควรให้เข้ากับ Mood & Tone ของห้อง อย่างห้องที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ จะเหมาะกับของตกแต่งเชิงประวัติศาสตร์หรือศิลปะ เช่น ป้ายที่เขียนตัวอักษร ดาบญี่ปุ่น ชุดแต่งกายของญี่ปุ่น ภาพวาด โถเครื่องปั้นดินเผา แต่หากอยากได้ห้องที่ตกแต่งสมัยใหม่สไตล์มินิมอล เพื่อรับกับบ้านสไตล์โมเดิร์นของคุณได้ด้วย อาจเลือกเป็น ตุ๊กตาไม้ญี่ปุ่น ของเล่นเด็กญี่ปุ่น โมเดลหรือฟิกเกอร์ญี่ปุ่น นกพับกระดาษ เป็นต้น
7. เสื่อทาทามิ
เสื่อทาทามิ ถือเป็นเสื่อที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาช้านาน ถ้าให้เปรียบเทียบคงเหมือนเสื่อไทยที่บ้านเราใช้ปูพื้นในการทำกิจกรรมต่างๆ สำหรับการเลือกเสื่อทาทามิเพื่อใช้ในงานตกแต่งในรูปแบบของสไตล์เซน สามารถเลือกใช้งานได้ในพื้นที่ของ ห้องนั่งเล่นหรือส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร เพราะเสื่อทาทามิถ้าจะให้พูดหน้าที่หลัก จะคล้ายกับพรมรองพื้นที่ใช้ในงานตกแต่ง แต่จะมีความแตกต่างกันที่ผิวสัมผัส และการเลือกใช้ให้เหมาะกับบางสไตล์ตกแต่ง ซึ่งเสื่อทาทามิเองจะช่วยปรับเปลี่ยนบรรยากาศให้มีความอบอุ่นและเป็นการเพิ่มลูกเล่นภายในตัวไปด้วย
8. ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยๆแต่พองาม
การเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่พองาม ก็เป็น ไอเดียแต่งบ้าน อีกไอเดียหนึ่ง ที่สำคัญมากเพราะถ้าเราเลือกมาเยอะเกินไป ดีไม่ดีอาจจะผิดธีมก็ได้ ถ้าอยากได้บ้านสไตล์ญี่ปุ่น เราก็ต้องคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบง่าย สบายตา แต่ใส่เข้าไปแล้วมีกิมมิก เช่น อาจจะเป็นฟังก์ชันเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ดูมินิมอล มีดีไซน์เรียบหรูได้เหมือนกันนะ และ การจะเลือกไอเท็มให้เหมาะกับ Japanese Home เพื่อน ๆ จะต้องเลือกที่มีกลิ่นไอของชาวญี่ปุ่นอยู่ด้วยจะดีมากเลยค่ะ อย่างนาฬิกาไม้ หรือผ้าแคนวาสที่มีตัวอักษรญี่ปุ่นอยู่ด้วย
9. ความสว่างต้องทั่วถึง
บ้านสไตล์ญี่ปุ่น ต้องมีแสงสว่างทั่วถึง ไม่ควรดูทะมึน เหงา ๆ อันนี้ผิดธีมมากค่ะ เราจะต้องพยายามทำให้บ้านหรือห้องมีแสงแดดสาดเข้ามาถึง หรือถ้ากลัวร้อน จะเอาโคมไฟเล็ก ๆ มาช่วยด้วยก็ได้นะคะ หรือ จะเลือกเป็นผ้าม่านบาง ๆ มาติดให้แสงรำไรเข้ามาแบบ ละมุน ๆ ก็รอดเด้อ สิ่งสำคัญคือต้องให้ความรู้สึกโล่ง โปร่งสบาย ยิ่งถ้ามีหน้าต่างด้วยจะยิ่งดีเลยค่ะ ลองคิดภาพเราตื่นนอนขึ้นเช้า ๆ เปิดหน้าต่างรับลม ให้พัดผ่านเข้ามาพร้อมไอแดด แค่คิดภาพก็ฟินแล้ว
10. ทางเข้าบ้านมีห้องเก็บรองเท้า
อีกหนึ่งสิ่งที่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นต้องมีก็คือห้องรองเท้าหรือเก็นคัง (Genkan) ซึ่งจะอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน เป็นห้องสำหรับเก็บรองเท้าและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน โดยบรรยากาศส่วนใหญ่จะเป็นห้องไม้ เรียบ ๆ โล่ง ๆ โปร่ง ๆ สว่าง ๆ ที่สำคัญต้องสะอาดสะอ้านและเต็มไปด้วยตู้เก็บรองเท้ามากมาย หรือที่เรียกว่า Getabako บอกเลยถ้าหากใครอยากให้บ้านมีกลิ่นอายญี่ปุ่น ห้ามพลาดต่อเติมเก็นคังหน้าบ้านเด็ดขาด
11. เพิ่มสีสันด้วยสติ๊กเกอร์
ถึงแม้บ้านสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นความเรียบง่าย อบอุ่น แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะถ้าหากโทนสีธรรมชาติไม่ใช่สไตล์ของคุณ ก็สามารถเพิ่มลวดลายและสีสันเข้าไปได้ ด้วยสติ๊กเกอร์ติดผนังแบบญี่ปุ่นหรือ Wall Sticker ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป แถมมีให้เลือกหลากหลายลายที่สำคัญเวลาแกะออกไม่ทิ้งคราบตกค้าง ถ้าหากใครอยากเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นให้มากขึ้นกว่าเดิมอย่าลืมตกแต่งเข้าคู่กับเฟอร์นิเจอร์ทรงเตี้ย ทั้งโต๊ะ ตู้ และเก้าอี้ เพราะจะช่วยให้ห้องกว้างขวางและน่าอยู่แบบชาวญี่ปุ่นนั่นเอง
12. จัดเก็บตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ถ้าหากสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่า ตู้เสื้อผ้าของญี่ปุ่นไม่เหมือนกับตู้เสื้อผ้าของไทย โดยตู้เสื้อผ้าญี่ปุ่นเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โอชิ-อิเระ (Oshi-ire) มีลักษณะเป็นตู้สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มาพร้อมกับประตูบานเลื่อน ส่วนภายในแบ่งออกเป็นสองชั้น บนกับล่าง มีไม้พาร์ติชั่นแข็งกั้นตรงกลางตามแนวนอน ความลึกประมาณฟูกพับครึ่ง ซึ่งทุกวันนี้มักจะมีราวแขวนเสื้อติดมาด้วย แต่บางครั้งก็เป็นตู่โล่ง ๆ ไม่มีอะไรภายใน เพราะสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์เสิมได้ต่างหากตามต้องการเนื่องจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเน้นพับเสื้อผ้าเก็บใส่กล่อง ตะกร้า ลิ้นชัก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามสะอาดตา อีกทั้งยังทำให้มองหาและหยิบใช้ได้ง่ายด้วย ถึงขนาดมีวิธีการจัดตู้เสื้อผ้าแบบญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยล่ะ
อ่านบทความน่าสนใจเกี่ยวกับบ้านถัดไป เสริมฮวงจุ้ยด้วยของตกแต่งบ้านรับปีเสือทอง